6 ทริคลับทำยังไงให้ลูกน้อยอารมณ์ดี

6 ทริคลับทำยังไงให้ลูกน้อยอารมณ์ดี

6 ทริคลับทำยังไงให้ลูกน้อยอารมณ์ดี

6 ทริคลับทำยังไงให้ลูกน้อยอารมณ์ดี คนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างเรา ต้องอยากให้ลูกน้อยเป็นเด็กอารมณ์ดี ร่าเริง สดใสและมีพัฒนาการที่สมวัย เพื่อให้ลูกพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และทำให้ลูกมีพัฒนาการทางสมองที่ดี ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพียงเริ่มต้นจากตัวพ่อแม่อย่างเรานั่นเองค่ะ แล้วเราจะทำยังไงเพื่อให้ลูกน้อยเป็นเด็กอารมณ์ดี ตามแอดมินมาเลยค่ะ

ลูกมีความสุข

  1. เริ่มต้นจากพ่อแม่

ลูกเราจะเติบโตมาเป็นเด็กแบบไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของพ่อแม่ ซึ่งการที่ลูกจะเป็นเด็กที่มีสุขภาพจิตดีหรือไม่ก็อยู่ที่พ่อแม่เช่นกันค่ะ โดยพ่อแม่จะต้องไม่แสดงอารมณ์โมโห หงุดหงิดใส่ลูกเป็นอันขาด และไม่ควรตวาดใส่ลูกอย่างไม่มีเหตุผลด้วยนะคะ

  1. ไม่ควรแหย่ให้ลูกโมโหหรือร้องไห้

คุณพ่อคุณแม่หรือคนในบ้านชอบแหย่ลูก ทำให้โมโหหรือร้องไห้บ่อย ๆ ด้วยคิดว่าไม่เป็นไรโอ๋ไม่นานลูกก็หายหงุดหงิด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ลูกเป็นเด็กที่ขาดความมั่นคงทางอารมณ์ และแสดงออกด้วยการหงุดหงิด และกลายเป็นเด็กอารมณ์ไม่ดีในที่สุดค่ะ

เล่นกับลูกบ่อบ ๆ

  1. ควรเล่นกับลูกบ่อย ๆ

การเล่นกับลูกบ่อย ๆ เราไม่จำเป็นต้องไปสรรหาของเล่นแพง ๆ มาเล่นกับลูกเลยค่ะ แค่เล่นจ๊ะเอ๋ ปูไต่ ที่แสดงสีหน้าในแบบต่าง ๆ หรือทำเสียงแปลก ๆ แค่นี้ลูกก็สนุกและทำให้ลูกหัวเราะชอบใจอย่างอารมณ์ดีแล้วค่ะ ซึ่งวิธีนี้ไม่เพียงทำให้ลูกเป็นเด็กอารมณ์ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีของพ่อแม่ลูก แถมยังช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมองและกระบวนการคิดของลูกน้อยได้เป็นอย่างดีอีกด้วยนะคะ

  1. สัมผัสที่อ่อนโยนของแม่เป็นสิ่งสำคัญ

ทุกสัมผัสของแม่มีผลต่อการพัฒนาสมองของลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัมผัสที่อ่อนโยนของแม่นั้น มีผลต่อสมองของลูกมาก ๆ ฉะนั้นคุณแม่ควรกอดลูกบ่อย ๆ ลูบหลังเบา ๆ ลูบท้องกล่อมนอน หรือจะใช้การนวดเบา ๆ ที่ตัวของลูก จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ลูกรู้สึกถึงสัมผัสที่อบอุ่นของแม่นั่นเองค่ะ

ใช้ดนตรีช่วยกล่อมลูก

  1. ใช้ดนตรีช่วยกล่อมลูก

การใช้ดนตรีบำบัดหรือเปิดเพลงกล่อมลูกนั้น ควรเป็นเพลงจังหวะสบาย ๆ การเปิดเพลงให้ลูกฟังนั้น คุณแม่สามารถทำได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ไปจนถึง 3 ขวบปีแรกค่ะ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ลูกเป็นเด็กอารมณ์ดี นอนง่ายแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการได้ยิน พัฒนาบุคลิกภาพ และยังช่วยในการจัดลำดับความคิดในสมองส่วน Spatial Temporal ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการเรียนรู้ค่ะ

  1. ลูกควรนอนหลับให้เพียงพอ

ชั่วโมงการนอนของลูกน้อยในแต่ละช่วงวัย มีผลต่อการกระตุ้นระบบประสาทและสมอง รวมถึงอารมณ์ของลูกอีกด้วย โดยในช่วงอายุ 1-2 ปีแรก ลูกควรนอนให้ได้ 11-12 ชั่วโมงต่อวัน หากลูกนอนไม่พอก็อาจจะหงุดหงิดได้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกเข้านอนให้เป็นเวลา และไม่ควรทำเสียงรบกวนการนอนของลูกค่ะ ซึ่งการที่ลูกจะนอนหลับได้ยาวขึ้นนั้น พ่อคุณแม่ก็ควรทาแป้งเด็กในจุดที่ต้องสัมผัสกับผ้าอ้อม เพื่อลดการระคายเคือง ที่สำคัญควรเลือกแป้งเด็กที่ไม่มีทัลคัมเป็นส่วนผสม อย่างแป้งเด็กไร้ซแคร์ เพราะเป็นแป้งเด็กจากธรรมชาติ ผลิตจากแป้งข้าวเจ้าจึงไม่จับตัวเป็นก้อน เป็นแป้งเด็กที่ช่วยให้ลูกสบายตัวและไม่รบกวนการนอนของลูกอย่างแน่นอนค่ะ

หมดกังวลเรื่องผดผื่น ให้ลูกน้อยสบายตัว

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหแป้งเด็กที่ไม่มีทัลคัม ซึ่งเป็นแป้งเด็กจากธรรมชาติ ช่วยให้ลูกห่างไกลจากภูมิแพ้ แอดมินขอแนะนำแป้งเด็กไร้ซแคร์ค่ะ ซึ่งเป็นแป้งเด็กที่ผลิตมาจากแป้งข้าวเจ้า จึงเป็นแป้งเด็กที่ไม่มีทัลคัม ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถวางใจได้ ว่าไร้ซแคร์เป็นแป้งเด็กที่ปลอดภัยกับลูกแน่นอน เพียงคุณแม่เทแป้งเด็กลงบนฝ่ามือเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ทาลงบนผิวลูก และไม่ควรโรยแป้งเด็กลงบนตัวลูกโดยตรง เพราะอาจทำให้แป้งเด็กฟุ้งกระจายได้ ที่สำคัญระวังอย่างให้แป้งเด็กเข้าปากและจมูกของลูกนะคะ

สนใจสามารถสั่งซื้อแป้งไร้ซแคร์ทาง Inbox FB คลิก

http://m.me/ReisCareBabyPowder/

สามารถสั่งซื้อและชำระผ่านบัตรเครดิต หรือชำระปลายทาง (COD) ได้ที่

? Official Shop at Shopee คลิก

https://shp.ee/yyqfrw5

? Official Shop at Lazada คลิก

https://www.lazada.co.th/shop/reiscare/

รายชื่อร้านค้าชั้นนำที่จัดจำหน่ายแป้งไร้ซแคร์ตามภาคต่าง ๆ คลิก

https://bit.ly/2nQQh4U