เลือกแป้งเด็กจากข้าวปลอดภัยทั้งจากทัลคัมและเอสเบสทอส
เลือกแป้งเด็กจากข้าวปลอดภัยทั้งจากทัลคัมและเอสเบสทอส
เลือกแป้งเด็กจากข้าวปลอดภัยทั้งจากทัลคัมและเอสเบสทอส ตั้งแต่บริษัทผู้ผลิตแป้งรายใหญ่ประกาศยกเลิกการผลิตแป้งฝุ่นที่มีสารทัลคัมเป็นส่วนประกอบ ผู้ผลิตหลายรายก็เริ่มให้ความสนใจแป้งจากพืชธรรมชาติมากขึ้น ประกอบกับนโยบายคุ้มครองผู้บริโภคในหลายประเทศที่เข้มงวดเรื่องสารปนเปื้อนในแป้ง
- Reiscare แป้งสำหรับทุกคน…ในครอบครัว
- 4 วิธีปกป้องผิวลูกให้สุขภาพดีในหน้าฝน
- วิธีป้องกันความอับชื้นบนผิวของลูกน้อย
ทำไมถึงต้องใช้แป้งจากพืชธรรมชาติ
แต่เดิมแป้งฝุ่นสำหรับเด็กส่วนใหญ่มีส่วนผสมหลักเป็นทัลคัม ซึ่งเป็นแร่หินชนิดหนึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยดูดซับความชื้น และช่วยให้ผิวลื่น ทัลคัมบริสุทธิ์จะถูกนำทัลคัมไปเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง เช่น แป้งทาตัว แป้งอัดแข็ง อายแชโดว์ บลัชออน หรือแม้แต่อุตสาหกรรมยาก็มีการใช้ทัลคัมเป็นส่วนประกอบเช่นกัน
แต่เนื่องจากทัลคัมเป็นแร่ที่พบได้ตามธรรมชาติ จึงมีความเสี่ยงในการปนเปื้อนแร่ใยหินแอสเบสตอส (Asbestos) สูง ซึ่งเจ้าแร่ใยหินแอสเบสตอสนี่เป็นอนินทรีย์สารที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ ทั้งยังเป็นผงอนุภาคขนาดเล็ก เมื่อใช้แป้งทัลคัมที่มีแร่ใยหินแอสเบสตอส บ่อย ๆ เข้าก็จะเกิดการสะสมในร่างกาย ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ ป่วยโรคทางดินหายใจ รวมถึงมีโอกาสเกิดโรคมะเร็งปอดด้วยค่ะ
ด้วยเหตุนี้หลาย ๆ ประเทศเลยเรียกเก็บหรือแบนการนำเข้าแป้งฝุ่นที่มีแร่ทัลคัมเป็นส่วนประกอบ เพราะอาจปนเปื้อนแร่ใยหินที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพนั่นเอง
ในประเทศไทยเองเริ่มมีผู้ผลิตให้ความสำคัญกับแป้งจากพืชธรรมชาติมากขึ้น จากการสำรวจตัวอย่างแป้งฝุ่นของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พบว่า ในปี พ.ศ. 2563 มีตัวอย่างแป้งฝุ่นจากพืชธรรมชาติเพิ่มขึ้นเป็น 6 ตัวอย่าง เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2559 ที่พบเพียง 1 ตัวอย่างเท่านั้น นั่นแสดงว่าทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับแป้งจากพืชธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
แป้งเด็กจากพืชธรรมชาติดีอย่างไร
แป้งเด็กจากพืชธรรมชาติ ปัจจุบันนิยมใช้แป้งข้าวจ้าวและแป้งข้าวโพดเป็นส่วนประกอบหลัก โดยแป้งทั้ง 2 ชนิดนี้มีเนื้อขาวละเอียด มีความปลอดภัยสูง สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ โดยเฉพาะแป้งข้าวจ้าวมีคุณสมบัติในการป้องกันความเปียกชื้นได้ดี ไม่ระคายเคืองต่อผิว ช่วยให้ลูกรู้สึกผิวแห้งสบายตัวตลอดเวลานอกจากนี้แป้งข้าวจ้าวยังมีการฟุ้งกระจายต่ำ ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และไม่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของลูกค่ะ
ทาแป้งเด็กให้ลูกอย่างไรให้ปลอดภัย
- ไม่โรยแป้งปริมาณมาก ๆ ลงบนตัวลูกโดยตรง
- ค่อย ๆ เทแป้งใส่ฝ่ามือ ลูบไล้แป้งเบา ๆ แล้วทาลงบนผิวลูก
- ไม่โรยแป้งเหนือใบหน้าลูก เพื่อป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจายเข้าสู่ระบบหายใจของลูก
- หลีกเลี่ยงบริเวณดวงตา จมูก ปาก สะดือ รวมถึงบริเวณอวัยวะเพศ
- ใช้พัฟท์เพื่อลดการฟุ้งกระจายจากการเทแป้ง
อ้างอิง
ขอบคุณข้อมูลจาก www.reiscare.com
ตรวจสอบข้อมูลโดย นพ.ชาญสิริ เสกสรรค์วิริยะ โสต ศอ นาสิกแพทย์ อนุสาขาเวชศาสตร์การนอนหลับ
โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี
(พื้นที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์)