แป้งเด็กอันตรายต่อลูกน้อยที่ไม่ควรมองข้ามกับส่วนผสมในแป้งเด็กที่ต้องระวัง

แป้งเด็กอันตรายต่อลูกน้อยที่ไม่ควรมองข้ามกับส่วนผสมในแป้งเด็กที่ต้องระวัง

แป้งเด็กอันตรายต่อลูกน้อยที่ไม่ควรมองข้ามกับส่วนผสมในแป้งเด็กที่ต้องระวัง

แป้งเด็กอันตรายต่อลูกน้อยที่ไม่ควรมองข้ามกับส่วนผสมในแป้งเด็กที่ต้องระวัง แป้งเด็ก คือผลิตภัณฑ์ที่คุณพ่อคุณแม่มักหยิบมาทาตัวของลูกน้อย หรือทาตามจุดซ่อนเร้นของลูกน้อยก่อนใส่ผ้าอ้อม เพื่อป้องกันความเปียกชื้น และผดผื่นแพ้ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามร่างกาย แต่เมื่อแป้งเด็กทารกที่ควรเป็นสิ่งที่ปลอดภัยสำหรับลูกน้อยที่สุด กลับกลายเป็นสารก่อภูมิแพ้ และสารก่อมะเร็งรังไข่ขึ้นมา แล้วสารอันตรายเหล่านี้มาได้อย่างไรมาดูกัน

เมื่อแป้งเด็กมาจากแร่หิน

แป้งเด็กคือสิ่งที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่จนโต ด้วยคุณพ่อคุณแม่มักใช้แป้งเด็กในการทาตัวลูกน้อย เพื่อป้องกันผดผื่นคัน ผื่นแพ้ต่าง ๆ ที่สามารถเกิดกับลูกน้อยได้ แต่สิ่งที่หลาย ๆ คน อาจไม่เคยรู้ก็คือ แป้งเด็กที่เราคุ้นชินนี้

ไม่ได้ปล่อยภัยอย่างที่คิด เพราะ แป้งเด็กที่ใช้ ๆ กันอยู่ทุกวัน ไม่ได้ผลิตมาจากวัตถุดิบธรรมชาติ แต่แป้งเด็กถูกผลิตมาจากแร่หินทัลค์ ที่ประกอบไปด้วยธาตุแมกนีเซียม ออกซิเจน ซิลิกอน

โดยแร่หินทัลค์นี้สามารถเกิดได้จากปฏิกิริยา Hydrothermal ของหินโดโลไมท์ และหินอัคนี ที่มีส่วนประกอบของแมกนีเซียมและซิลิกาเป็นองค์ประกอบ แหล่งของแร่หินทัลค์ที่สำคัญ คือ ประเทศอิตาลี สเปน ฝรั่งเศส อเมริกา และจีน ส่วนในประเทศไทยเองก็สามารถพบแร่หินชนิดนี้ได้ในบริเวณภาคเหนือของประเทศ อีกด้วย

ทัลคัมในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง

แร่หินทัลค์ที่ถูกในมาใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง จะถูกทำให้เป็นผงแป้งทัลคัมได้ โดยการนำไปบดให้ละเอียด ทำการอบให้แห้งจากนั้นนำไปผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ แล้วแยกสิ่งแปลกปลอมผงแป้งทัลคัม

แต่ก็ไม่สามารถทำให้ผงแป้งเด็กจากทัลคัมนี้บริสุทธิ์ 100 % ได้อยู่ดี เพราะผงแป้งทัลคัมที่ได้อาจจะมีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตราย อย่าง สารแอสเบสตอส (Asbestos) ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) และ U.S. Environmental Protection Agency

จัดให้เป็น Unclassifiable Carcinogen หรือเป็นสารก่อมะเร็งที่ไม่สามารถจัดจำพวก ปนเปื้นอยู่ในแป้งเด็กนั่นเอง

ทั้งนี้ แป้งทัลคัมที่ใช้ในอุตสาหกรรมแป้งเด็กนั้น มีคุณสมบัติในเรื่องของการดูดซับความชื้นและสามารถลดการเสียดสีได้เป็นอย่างดี

เมื่อนำแป้งเด็กจากแป้งทัลคัมมาทาตัวจึงทำให้ลดการเกิดผดผื่นคัน และกลิ่นอับชื้นได้ ซึ่งความละเอียดของแป้งเด็กส่งผลต่อความรู้สึกในการใช้

ดังนั้นแป้งทัลคัมสำหรับแป้งเด็กจึงต้องมีลักษณะเป็นผงละเอียดสีขาว

และการเป็นผงละเอียดสีขาวนี้เอง ที่เมื่อนำมาใช้ทาตัวเด็กจะทำให้แป้งเด็กจากแป้งทัลคัมฝุ้งกระจายไปในอากาศ และเข้าสู้ระบบทางเดินหายใจได้หากใช้ไปในระยะยาว

แป้งเด็กจากแป้งทัลคัมอันตรายกว่าที่คิด

 

เนื่องจากแป้งเด็กจากแป้งทัลคัมนี้จะเกิดการสะสมอยู่ในปอด และทำให้ระบบทางเดินกายใจผิดปกติ ซึ่งละอองของแป้งเด็กเพียงเล็กน้อยอาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อปอดของทารกและส่งผลให้เสียชีวิตได้ โดยเฉพาะทารกที่มีอาการของโรคระบบทางเดินหายใจเป็นประจำหรือเสี่ยงเป็นโรคทางเดินหายใจ เช่น ทารกที่คลอดก่อนกำหนด เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด หรือติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี เป็นต้น เพราะแป้งทัลคัมนี้เป็นสารอนินทรีย์ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ นั่นเอง

ทั้งนี้ เมี่อผู้ที่สูดดมหรือกลืนผงทัลคัมปริมาณมากในคราวเดียวหรือในปริมาณน้อยแต่ค่อย ๆ สะสมอยู่ในร่างกาย ล้วนอาจเกิดภาวะผงทัลคัมเป็นพิษ ส่งผลให้มีอาการผิดปกติ เช่น ปัสสาวะน้อยลงหรือไม่ปัสสาวะเลย ท้องเสีย อาเจียน หมดสติ เซื่องซึม อ่อนเพลีย เป็นไข้ กล้ามเนื้อใบหน้า แขน มือ ขา หรือเท้ากระตุกไอ ระคายเคืองคอ ระคายเคืองตา เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจมีเสียงหวีด มีภาวะทางเดินหายใจล้มเหลว ความดันต่ำ ผิวพุพอง มีแผลหรือฟกช้ำตามผิวหนัง ริมฝีปาก นิ้วมือ หากมีภาวะผงทัลคัมเป็นพิษ บุคคลใกล้ชิดควรรีบพาผู้ป่วยไปยังที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และนำตัวส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ที่สำคัญคือห้ามทำให้อาเจียนเด็ดขาด เว้นแต่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์

นอกจากนี้ แป้งทัลคัมที่เป็นส่วนผสมหลังในการผลิตแป้งเด็กนั้น

ไม่เพียงแต่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องสำอางอย่างเดียวเท่านั้น แต่แป้งทัลคัมยังถูกนำไปใช้ในการเป็นตัวเติม (Filler) ในอุตสาหกรรมกระดาษและพลาสติก

โดยเป็นตัวเติมเพื่อช่วยควบคุมเรื่องการขยายตัวเมื่อโดนความร้อนในอุตสาหกรรมเซรามิก รวมไปถึงสารหล่อลื่นแบบพิมพ์ในการขึ้นรูปโลหะ อีกด้วย

แป้งเด็กทำไมจึงเป็นสารก่อมะเร็ง

จากเหตุการณ์ศาลในสหรัฐอเมริกาได้มีการพิพากษาให้บริษัทผู้ผลิตแป้งเด็กแบรนด์ดัง จ่ายค่าเสียหาย 72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท ให้กับครอบครัวของหญิงรายหนึ่ง ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งรังไข่ หลังเธอใช้แป้งเด็กทาบริเวณอวัยวะเพศมานานหลายปี จนกลายเป็นกระแสฮือฮาทั่วโลกออนไลน์ ว่าการใช้แป้งเด็กทาจุดซ่อนเร้น อาจจะทำให้เกิดมะเร็งรังไข่ได้ เนื่องจากแร่ทัลค์ (Talc) ที่อยู่ในแป้งเด็ก

แป้งทัลคัมที่เราเห็นอันตรายจริงหรือไม่แล้วทำไมถึงไม่ปลอดภัย

แป้งทัลคัมที่เราเห็นอันตรายจริงหรือไม่แล้วทำไมถึงไม่ปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม จากกรณีของการก่อให้เกิดมะเร็งรังไข่เมื่อใช้แป้งเด็กที่จุดซ่อนเร้นของสตรีนั้น ขณะนี้ยังไม่มีผลการศึกษาใด ๆ ที่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่าทัลค์ที่อยู่ในแป้งเด็ก จะเป็นสารก่อมะเร็งจริงหรือไม่

ประเทศต่าง ๆ จึงยังคงอนุญาตให้ใช้ทัลค์ในเครื่องสำอางรวมถึงแป้งเด็กได้อยู่ แต่อย.ก็ได้มีการเฝ้าระวังความปลอดภัยของแป้งเด็กโรยตัวอย่างใกล้ชิด อีกทั้ง อย.

ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ผู้ประกอบธุรกิจมีการเพิ่มคำเตือนบนฉลากเพื่อเป็นข้อพึงระวังแก่ผู้บริโภคในการใช้ผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น เช่น ระวังอย่าให้แป้งฝุ่นเข้าจมูกและปาก และสตรีไม่ควรโรยแป้งฝุ่นบริเวณจุดซ่อนเร้น เป็นต้น

แพทย์เตือนควรหลีกเลี่ยงการใช้ทัลคัม

แพทย์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้แป้งเด็กที่มีส่วนผสมของทัลคัม และผู้ผลิตชั้นนำได้หันมาเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ อาทิ แป้งข้าวโพด เพื่อทดแทนแร่หินทัลค์ (Talc)

และในปัจจุบันมีความนิยมใช้แป้งเด็กที่ทำมาจากแป้งข้าวเจ้าบริสุทธิ์ (Rice Starch) กันมากขึ้น เนื่องจากมีความปลอดภัยมากกว่าแป้งทัลคัม เพราะเป็นสารอินทรีย์ ทำให้สามารถย่อยสลายได้โดยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ

ไม่เกิดการสะสมในปอดหรือใต้ร่มผ้า ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และลดความเสี่ยงจะก่อให้เกิดมะเร็งรังไข่ นอกจากนี้ยังปกป้องลูกน้อยจากผื่นคัน เพราะมีคุณสมบัติป้องกันความเปียกชื้นและการดูดซับไขมันสูงกว่า ทัลคัม อีกด้วย

สนใจสามารถสั่งซื้อแป้งไร้ซแคร์ทาง Inbox FB คลิก

http://m.me/ReisCareBabyPowder/

สั่งซื้อทาง Line แอด Line ID :

https://line.me/R/ti/p/%40930ztntw

สามารถสั่งซื้อและชำระผ่านบัตรเครดิต หรือชำระปลายทาง (COD) ได้ที่

? Official Shop at Shopee คลิก

https://shp.ee/yyqfrw5

? Official Shop at Lazada คลิก

https://www.lazada.co.th/shop/reiscare/

รายชื่อร้านค้าชั้นนำที่จัดจำหน่ายแป้งไร้ซแคร์ตามภาคต่าง ๆ คลิก

https://bit.ly/2nQQh4U